หมายเหตุ 1 – บทความนี้ถูกเขียนขึ้นจากความตั้งใจที่จะช่วยผู้ที่ต้องการจะท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ให้เข้าใจและเห็นภาพรวม รวมถึงการวางแผนการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นที่เหมาะสมกับตนเอง
หมายเหตุ 2- บทความนี้ถูกเขียนขึ้นจากประสบการณ์ตรงของตัวผู้เขียนเอง ในส่วนหัวข้อ “คำแนะนำของผม” นั้น คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ได้ครับ
สวัสดีครับทุกท่าน เนื่องจากผมได้สิงสถิตย์อยู่ในห้องบลูแพลนเน็ตของพันทิป.คอม มานานพอสมควร (ในส่วนของ “เที่ยวต่างประเทศ)
สิ่งหนึ่งที่ผมได้เห็นอยู่บ่อยๆ ก็คือคำถามประมาณว่า ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก ไปไหนดี?, ใช้เงินเท่าไหร่?, มีที่เที่ยวไหนแนะนำบ้าง?, เดินทางยังไง, ไปโรงแรมนู่นนี่นั้น เดินทางอย่างไร?
ซึ่งหลายครั้งก็มีเพื่อนๆ ที่ใจดี คอยให้คำตอบ คำแนะนำประมาณว่า “หาดูใน Google เลยนะจ้ะ” “ค้นดูในพันทิปแล้วหรือยัง?” ฯลฯ
ซึ่งผมก็เข้าใจผู้ที่ถามว่า ส่วนหนึ่งเขาอาจจะนึกภาพไม่ออก (ซึ่งผมก็เคยเป็นเวลาจะไปเที่ยวที่ใหม่ๆ สักที่หนึ่ง) ลองคิดดูสิครับว่า บางคนอาจจะเพิ่งเคยเริ่มออกเที่ยวด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก จะกังวล สงสัย กลัวขนาดไหน
บทความนี้ ก็เลยอยากจะทำขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ได้เห็นภาพรวมๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น ซึ่งผมขออนุญาตใช้ชื่อตอนนี้ว่า “เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง” 7 คำถามเพื่อการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ง้อทัวร์”
ลองไปดูด้วยกันนะครับ
หมายเหตุ 3 – ผมขอใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนเป็นเงินบาทอยู่ที่ 100 เยน = 30 บาท เพื่อให้แปลงค่าเงินไปมาง่ายขึ้นนะครับ
*****************************************************
คำถามที่ 1 – เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก ไปไหนดี?
จุดแรกที่ผมจะนึกถึงอยู่เสมอก็คือ “จุดหมายปลายทาง” เวลาที่เราจะไปไหนก็ตาม เราต้องตอบคำถามก่อนว่า เราอยากไปที่ไหน ไปทำอะไร?
เอาแบบไม่ต้องปวดหัวมาก ผมสรุปง่ายๆ เลยแล้วกันว่า จุดหมายปลายทางแรกๆ ของคนที่อยากจะไปเที่ยวญี่ปุ่น มี 2 จุดใหญ่ๆ ก็คือ
- โตเกียว (Tokyo)
- โอซาก้า (Osaka)
เอาแค่นี้พอก่อน (ฮอกไกโด,ฟุกุโอกะ,ฮิโรชิม่า บลาบลาบลา อย่าเพิ่งไปคิดถึง เอาไว้บทต่อไป)
โดยปกติเวลาที่ใครสักคนหนึ่งอยากจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ผมเชื่อว่า มีโตเกียว กับ โอซาก้า อยู่ในตัวเลือกแรกๆ เสมอ เพราะเดินทางง่าย มีหลายสายการบินที่ให้บริการแบบบินตรงจากกรุงเทพไปถึงสองที่นี้ ทำให้หลายคนที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก
สถานที่ท่องเที่ยวที่คนมักนึกถึงเมื่อไปเที่ยว”โตเกียว” – ภูเขาไฟฟูจิ,ตลาดปลา,วัดอาซากุสะ (โคมแดงยักษ์),ตลาดอาเมโยโกะ,อากิฮาบาระ (โมเดล+ของเล่น),ช้อปปิ้ง, หิมะ,โตเกียว ดิสนี่ย์แลนด์,โอไดบะ ฯลฯ
สถานที่ท่องเที่ยวที่คนมักนึกถึงเมื่อไปเที่ยว”โอซาก้า” – ป้ายกูลิโกะยักษ์ (ถนนชินไซบาชิ),ปราสาทโอซาก้า,วัด,เกียวโต,กวางที่นารา,ช้อปปิ้ง,ใบไม้เปลี่ยนสี,โกเบ,สวนสนุกยูนิเวอร์แซล
ลองเลือกดูครับว่า จริงๆ คุณอยากไปที่ไหนบ้าง? ชอบอะไรเป็นพิเศษ?
เพราะทั้งโตเกียวและโอซาก้า ก็มีอะไรที่ทดแทนกันได้อยู่ เช่น ตลาดปลา,สวนสนุก,แหล่งช้อปปิ้ง
คำแนะนำของผม – หลายคนอาจจะอยากเที่ยวรอบเดียว รวบทั้งโตเกียว-โอซาก้า ในทริปเดียว อาจจะสงสัยว่า ทำได้ไหม? คำตอบของผมคือ “ทำได้ครับ แต่ไม่แนะนำ เพราะมันจะเหนื่อย”
ถ้าเป็นไปได้ ค่อยๆ เก็บทีละโซนดีกว่าครับ เพราะผมเชื่อว่า เมื่อคุณได้ไปญี่ปุ่นครั้งแรกแล้ว มันจะไม่เป็นครั้งเดียวของคุณครับ
คำถามที่ 2 ไปญี่ปุ่นกี่วันดี?
อันนี้แล้วแต่งบในกระเป๋าคุณเลยครับ บางคนอาจจะไปเต็มที่ 15 วัน ล่องจากเหนือจรดใต้ของญี่ปุ่น หรือจะไปแค่ 3-4 วันก็มี อยู่ที่วันลา(สำหรับคนทำงานประจำ) หรือช่วงสะดวก (สำหรับคนไม่ได้ทำงานประจำ)
คำแนะนำของผม – ผมชอบไปญี่ปุ่น 5-7 วันครับ ไม่ค่อยน้อยหรือมากกว่านี้ครับ ไปเยอะ ค่าใช้จ่ายก็เยอะตามครับ ไปน้อย ก็ยังไม่เต็มอิ่ม
คำถามที่ 3 ไปญี่ปุ่นช่วงไหนดี?
ผมขอตอบคำถามนี้ด้วยการแบ่งฤดูของญี่ปุ่นออกเป็น 4 ฤดูครับ
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) ช่วงนี้ คนไทยชอบไปเดือนเมษายน เพราะเป็นช่วงที่ดอกซากุระบาน และตรงกับช่วงวันหยุดยาวของไทยในช่วงสงกรานต์ อากาศเย็นสบาย
- ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) ช่วงนี้ร้อนครับ ร้อนพอๆ หรืออาจจะร้อนกว่าบ้านเรา แต่ข้อดีคือตั๋วเครื่องบินถูก ของลดราคาเยอะ เหมาะกับขาช้อป
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) หรือช่วงใบไม้เปลี่ยนสี คนไทยชอบไปเดือนพฤศจิกายน อากาศเย็นสบาย
- ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) หากต้องการไปช่วงที่มีหิมะ แนะนำให้ไปลงที่โตเกียว แล้วเที่ยวบริเวณรอบนอกโตเกียว จะเจอหิมะได้ง่ายกว่า (แถบโอซาก้าไม่ค่อยเห็นหิมะครับ)
คำถามที่ 4 – ไปญี่ปุ่นด้วยสายการบินอะไรดีนะ?
อันนี้แล้วแต่ความชอบและกำลังทรัพย์ของแต่ละท่านเลยครับ โดยผมขอแบ่งประเภทของสายการบินที่ไปญี่ปุ่นมีสองแบบคือ
- แบบโลว์คอสต์ (Lowcost) เช่น แอร์เอเชีย นกสกู๊ต – จำง่ายๆ บินตรง,ราคาถูก ,เลือกที่นั่ง จ่ายเพิ่ม,เลือกอาหาร จ่ายเพิ่ม
- แบบฟูลเซอร์วิส (Full Service) เช่น การบินไทย เอเอ็นเอ เจแปนแอร์ไลน์ ฯลฯ – จำง่ายๆ รวมทุกอย่าง, แพงกว่าโลว์คอสต์, มีทั้งบินตรงและต่อเครื่อง
ถ้าเลือกราคา แนะนำโลว์คอสต์ (แต่บางครั้งแบบฟูลเซอร์วิสก็มีราคาโปรโมชั่นที่แพงกว่าโลว์คอสต์นิดหน่อย แนะนำว่าเลือกฟูลเซอร์วิสเลยครับ)
คำแนะนำของผม – ช่วงราคาที่มักจะเห็นตั๋วโปร ประมาณ 3-6 เดือนก่อนเดินทางครับ แต่บางทีก็จองข้ามปีก็มี ติดตามพวกเพจท่องเที่ยวดูนะครับ (ไม่โฆษณา ไม่ได้ตังค์ 555)
คำถามที่ 5 ค่าใช้จ่ายเมื่ออยู่ญี่ปุ่น มีค่าอะไรบ้าง?
ค่าใช้จ่ายผมของแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ ค่ากิน ,ค่าที่พัก และค่าเดินทาง(+ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ)
ส่วนที่ 1 ค่ากิน
แม้ว่าแต่ละคนจะมีความชอบและกำลังในการจับจ่ายใช้สอยที่ไม่เท่ากัน แต่ผมขออนุญาตเริ่มต้นที่ 500 เยนต่อมื้อ (150 บาท) เพื่อให้คำนวนได้ง่ายๆ โดย 500 เยน คุณจะได้อาหารชุดเริ่มต้นที่เรียกว่ากินได้อ่ิมสบายครับ
คำแนะนำของผม ผมชอบตั้งค่ากินแต่ละวันไว้ที่ 2,000 เยน แบ่งเป็น 500 เยน (มื้อเช้า) + 500 เยน (มื้อกลางวัน) + 500 เยน (มื้อเย็น) + 500 เยน (ขนม,ของกินเล่น)
โดยบางทีผมมักกินมื้อเช้าแบบเบาๆ บางทีก็ไม่เกิน 300 เยน ค่อยไปหนักมื้อเย็น ส่วนมื้อพิเศษก็แล้วแต่จังหวะครับ
ส่วนค่าช้อปปิ้ง ขออนุญาตไม่นำมาคิดนะครับ
ส่วนที่ 2 ค่าที่พัก
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มักเป็นตัวแปรที่จะทำให้ทริปแต่ละทริปของผมสั้นหรือยาว เพราะไปหลายวัน ค่าที่พักโรงแรมก็แพงขึ้นเป็นเงาตามตัว ในส่วนที่พัก ผมขอแบ่งเป็น 2 แบบง่ายๆ
ที่พักแบบนอนรวม เช่น Hostel ข้อดี ราคาถูก ข้อด้อย ขาดความเป็นส่วนตัว ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 800-1,200 บาทต่อคนต่อคืน มันเป็นห้องนอนรวม (เตียงสองชั้น) ห้องน้ำใช้รวมกัน
ที่พักแบบนอนแยก เช่น โรงแรม โดยส่วนมากราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2,000 – 3,000 บาทต่อห้อง(นอนสองคน)ต่อคืน หากไปเป็นคู่ และต้องการความเป็นส่วนตัว แนะนำแบบนี้ครับ
ส่วนการหาที่พัก ผมมักจะใช้ Booking.com เป็นอันดับแรก ส่วน Airbnb , Agoda , Expedia ก็ใช้ในบางโอกาสครับ
คำแนะนำของผม – เวลาผมเลือกที่พัก ผมมักเลือกที่ใกล้สถานีรถไฟ เพราะมันไม่สนุกเวลาลากกระเป๋าใบโตๆ ไปไหนมาไหนด้วย และผมมักจะเลือกที่พักที่เดียวตลอดทั้งทริป แล้วใช้วิธีการเที่ยวแบบเดย์ทริปครับ สบายตัวสุดๆ
ส่วนที่ 3 ค่าเดินทางและค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ
การเดินทางในประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ราคาประมาณ 200 เยนต่อเที่ยว (60 บาท) ซึ่งหากคุณต้องเดินทางไปหลายที่ในแต่ละวัน ขอแนะนำระบบพาส (Pass) ซึ่งแปลเป็นไทยแบบง่ายๆ ว่า “ตั๋วเหมา” ที่คนส่วนใหญ่รู้จักก็คือ เจอาร์พาส (JR Pass) ที่ใช้เดินทางด้วยรถไฟของบริษัท JR ได้ทั่วประเทศ (แต่ผมไม่แนะนำให้ซื้อ 555) เพราะถ้าคุณไม่ได้เดินทางแบบข้ามภูมิภาค ไม่แนะนำให้ซื้อครับ ซื้อพาสแบบอื่นดีกว่าครับ
คำแนะนำของผม – ส่วนใหญ่เวลาที่ผมจะตัดสินใจซื้อพาสเพื่อใช้ในการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง ผมเลือกเพราะความสะดวกสบายในเชิงที่ว่า มีพาสใบเดียว แตะผ่านเลย ไม่ต้องกลัวจะต้องจ่ายเพิ่มเวลาขึ้นผิดขบวน หลงทิศ หลงชานชาลา ตกรถ และผมจะวางราคาพาสต่อวันไว้ที่ไม่เกิน 1,500 เยนต่อวัน (450 บาท) หากวันไหนใช้ไม่เยอะ จ่ายเป็นเที่ยวสบายใจกว่าครับ
รายละเอียดพาส คุณสามารถค้นหาใน Google และใน Pantip ได้ง่ายๆ อยู่แล้วครับ (เอาไว้ไปเขียนใน JP 102 ถ้ามีโอกาสครับ)
ส่วนค่าเข้าชมสถานที่แต่ละที่ อันนี้คุณหาได้ในอินเทอร์เน็ตเลยครับ (ส่วนผม เสียตังค์เพิ่ม ส่วนใหญ่ไม่เข้า 555 นอกจากจะเข้าฟรีเพราะมีพาสบางตัว เช่น Osaka Amazing Pass ใช้ในโอซาก้า)
คำถามที่ 6 แลกเงินเยนที่ไหน? แลกเท่าไหร่ดี?
คำแนะนำของผม – ผมชอบไปแลกที่ร้านแลกเงินครับ เช่น ซูเปอร์ริช (จะสีเขียวหรือสีส้มก็ได้ครับ) หรือจะไปแลกที่สนามบินก็ได้ครับ แต่ไม่แลกกับทางธนาคารครับ ไม่ค่อยคุ้ม
ส่วนจำนวนเงินเยนที่แลก ผมชอบแลกทีนึงประมาณ 10,000 -15,000 บาท (ต่อคน) ถ้าไม่พอใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตครับ
คำถามที่ 7 ถ้าไปญี่ปุ่นทริปนึง ควรมีงบประมาณเท่าไหร่?
คราวนี้ เรามาลองตั้งงบประมาณกันดูเล่นๆ นะครับ
สมมุติว่า ผมกับภรรยาต้องการไปเที่ยวโตเกียว เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน เราต้องใช้งบเท่าไหร่?
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ถ้าผมเลือกบินด้วยแอร์เอเซีย ค่าใช้จ่ายไปกลับน่าจะอยู่ที่ 10,000 บาท
- ค่าที่พัก ถ้าได้ที่พักราคา 2,500 บาทต่อคือ ค่าใช้จ่ายต่อส่วนนี้คือ (1,250 x 4) = 5,000 บาท
- ค่ากิน ถ้าคิดที่ 2,000 เยนต่อวัน (คิดเผื่อเลย) ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คือ (600 x 5) = 3,000 บาท
- ค่าเดินทางและค่าเข้าสถานที่เหมาวันละ 2,000 เยนต่อวัน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คือ (600 x 5) = 3,000 บาท
ซึ่งรวมแล้ว จะใช้เงินประมาณ 21,000 บาท ไม่รวมค่าช้อปปิ้งครับ
คำแนะนำของผม ถ้าโดยระยะเวลาประมาณนี้ ผมจะใช้อยู่ที่ประมาณ 18,000 – 20,000 บาทต่อคนครับ (ย้ำว่าไม่รวมช้อปปิ้งนะครับ)
ในกรณีที่หลายคนรู้สึกว่า ไปเที่ยวต้องใช้เงินเยอะหรือใช้เงินก้อน ผมมีวิธีที่ผมมักใช้เสมอเวลาไปเที่ยวคือ “จ่าย 3 ส่วน” ครับ
- ส่วนแรก ค่าตั๋วเครื่องบิน ซื้อก่อนบิน 3-6 เดือน จ่ายด้วยบัตรเครดิตก่อน
- ส่วนที่สอง ค่าใช้จ่ายเมื่อไปเที่ยว (ไม่รวมค่าที่พัก)
- ส่วนที่ 3 ค่าที่พัก เลือกที่จ่ายที่โรงแรม และจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้
ขออนุญาตจบ JP 101 ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ คิดอะไรออกจะมาเขียนเพิ่มเติมนะครับ
Be the first to comment