ณพ ณรงค์เดช คือใคร? พร้อมเหตุจากการถูกตัดออกจากตระกูล “ณรงค์เดช”

“ณพ ณรงค์เดช” เป็นชื่อที่ถูกพูดถึงในช่วงนี้ เนื่องจากกรณีที่  มีการแถลงการณ์จาก “ครอบครัวณรงค์เดช-กลุ่มบริษัทเคพีเอ็น” ไม่ขอรับผิดชอบกับการกระทำใดๆของทายาทคนกลาง “ณพ ณรงค์เดช” หลังเจอปัญหาถูกฟ้องร้องคดีซื้อขายหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ทำให้หลายคนสงสัยและอยากรู้ว่า เขาคือใคร? ทาง Zcooby ขอสรุปข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมประวัติคร่าวๆ ของบุคคลท่านนี้ครับ

ณพ ณรงค์เดช คือใคร?

ณพ ณรงค์เดช เป็นบุตรของดร.เกษม ณรงค์เดช  เจ้าของบริษัทกลุ่มเคพีเอ็น เขาเป็นบุตรคนกลาง มีพี่และน้องคือ นายกฤษณ์ และนายกรณ์ ณรงค์เดช

สรุปกรณีเหตุการตัด ณพ ณรงค์เดช ออกจากตระกูล “ณรงค์เดช”

• เหตุการณ์ความวุ่นวายของเรื่องนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 หลังนายณพได้เข้าไปซื้อกิจการของบริษัทรีนิวเอเบิล เอเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น (REC) (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เคพีเอ็น เอนเนอร์ยี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KPNET)
• บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอร์ยี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) จำนวน 59.4%
• เดิมที่บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) จำนวน 59.4%  เป็นของนายนพพร ศุภพิพัฒน์ อดีตประธานบริษัท WEH ผู้บริหารหนุ่มเศรษฐีหน้าใหม่ ที่นิตยสารฟอร์บส์ไทยแลนด์ จัดอันดับให้เป็นมหาเศรษฐีของไทยในลำดับที่ 31 จาก 50 อันดับ ถือครองสินทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 26,076 ล้านบาท เมื่อปี 2557
• เดิมทีนายนพพรมีแผนจะนำ WEH ระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2558 ซึ่งจะทำให้มูลค่าหุ้น WEH ที่นายนพพรถืออยู่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ในช่วงปลายปี 2557 นายนพพรโดนออกหมายจับข้อหากระทำความผิดตาม ม.112  ฐานแอบอ้างเบื้องสูง ทำให้เขาหนีคดีออกนอกประเทศ
• เหตุการณ์นี้  ทำให้แผนการนำ WEH เข้าตลาดหลักทรัพย์ กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนและสถาบันการเงิน จนกระทั่งสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้ WEH ได้ชะลอการปล่อยกู้ทันที ทำให้โครงการที่กำลังเดินหน้าต้องหยุดชะงัก
• แต่ว่าโอกาสทางธุรกิจของ WEH ที่สดใสและมีกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังลมที่สร้างเสร็จแล้ว และยังมีสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตอีกจำนวนมาก ถือเป็นผู้ผลิตไฟพลังลมรายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ
• และก่อนที่นายนพพรจะถูกดำเนินคดีนั้น WEH ได้มีการเพิ่มทุนและขายหุ้นเพิ่มทุนนอกตลาดให้นักลงทุนขาใหญ่ในตลาดหุ้นจำนวนมาก จึงมีความพยายามผลักดันอย่างหนักเพื่อให้ WEH เข้าตลาดหุ้นให้ได้โดยเร็วที่สุด
• ในช่วงนี้ จึงมีการชักชวนให้นายณพ ณรงค์เดช เข้ามาซื้อหุ้นในส่วนที่นายนพพรถืออยู่ โดยการเข้าซื้อกิจการของบริษัทรีนิวเอเบิล เอเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น (REC) ที่ถือหุ้น WEH อยู่ 59.4% (โดยนายนพพรถือหุ้นใน REC 74.5% ร่วมกับบริษัท เน็กซ์ โกลบอล อินเวสต์เมนท์ในฮ่องกงที่ถืออยู่ 24.5%) เพื่อหวังเครดิตความน่าเชื่อถือและชื่อชั้นของนายณพและกลุ่มณรงค์เดชในการนำพา WEH เข้าตลาดหุ้น
• หลังจากนั้น มีการทำสัญญาซื้อขายหุ้นมูลค่าหลายหมื่นล้าน และกำหนดการชำระเงินค่าหุ้นออกเป็นงวดๆ แต่ปรากฏว่าจู่ๆ ทางกลุ่มผู้ขายมีการออกข่าวว่า กลุ่มบริษัทนายณพมีการชำระเงินค่าหุ้นไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ บ่ายเบี่ยงและล่าช้า แม้สุดท้ายจะได้รับชำระค่าหุ้นงวดแรกแล้ว แต่งวด 2 ยังมีการชำระล่าช้า จนต้องมีการเรียกค่าปรับดอกเบี้ย จึงมีความพยายามที่จะให้มีการยกเลิกสัญญาเพื่อเรียกหุ้นคืน
• โดยกลุ่มนายนพพรได้นำข้อพิพาทไปฟ้องต่อศาลระหว่างประเทศเพื่อการอนุญาโตตุลาการแห่งหอการค้านานาชาติ (ศาล ICC) ที่สิงคโปร์
• และที่สำคัญ ยังยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ เพื่อดำเนินคดีอาญานายณพกับพวกรวม 13 ราย ซึ่งรวมถึงบุคคลในตระกูลณรงค์เดช คือนางพอฤทัย ณรงค์เดช และ นายเกษม ณรงค์เดช ด้วย ในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ด้วยการร่วมกันจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นหรือรู้เห็นยินยอมให้มีการจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นของ WEH เพื่อไม่ให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ แม้ว่าจะได้ใช้สิทธิเรียกร้องและสิทธิบังคับชำระหนี้ตามกฎหมายแล้ว โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 8 พ.ค.61

 

 

นี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้ทางตระกูล “ณรงค์เดช” ออกมาประกาศตัดความสัมพันธ์กับนายณพ ณรงค์เดช