ลี กวน ยู บิดาผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์สมัยใหม่ (ประวัติ,ผลงาน)

เช้าวันที่ 23 มีนาคม 2558 ได้มีข่าวว่า อดีตนายกฯ สิงคโปร์ ลี กวน ยู ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 91 ปี เนื่องจากปอดติดเชื้อ คนรุ่นหลังอาจจะสงสัยว่า เขาคือใคร มีประวัติและผลงานอย่างไร จึงได้รับการยกย่องให้เป็น บิดาผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์สมัยใหม่ วันนี้ Zcooby จะหาคำตอบมาให้นะครับ

ลี กวน ยู คือใคร?

เขาเป็นนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนแรก ที่เริ่มต้นจากการเป็นนักการเมืองชาวสิงคโปร์ โดยเขาเป็นเป็นนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ซึ่งปกครองประเทศเป็นเวลาสามทศวรรษ ด้วยความสามารถของนำที่นำประเทศสิงคโปร์จากหมู่เกาะเล็กๆ ที่ค่อนข้างด้อยพัฒนา ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ จนกลายมาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ถือได้ว่า เขาเป็นบุคคลการเมืองทรงอิทธิพลที่สุดในทวีปเอเชียคนหนึ่ง และได้รับยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเขาเป็น “บิดาผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์สมัยใหม่”

ประวัติและผลงานของ ลี กวน ยู

นายลี กวน ยู หรือแฮรี่ เป็นชาวสิงคโปร์รุ่นที่สี่ โดยบรรพบุรุษของเขาอพยพมาจากมณฑลกวางตุ้งของจีนเมื่อราว 160 ปีก่อน ในด้านการศึกษเขาได้ศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับปริญญาด้านกฏหมายจากมหาวิทยาลัย Cambridge

ในปี พ.ศ 2497 ลี กวน ยู เริ่มต้นเส้นทางการเมือง ด้วยการก่อตั้งพรรค People’s Action Party หรือ PAP และได้รับเลือกเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาในอีก 1 ปีต่อมา

ในปี พ.ศ 2502 พรรค PAP ชนะเลือกตั้งได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล และนายลี กวน ยู ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ คนแรกของสิงคโปร์ ต่อเนื่องมาจนถึง ปี พ.ศ 2533 รวมเวลา 31 ปีที่เขาอยู่ในตำแหน่ง

ในช่วงแรกของการบริหารประเทศ  ลี กวน ยู ต้องผนวกสิงคโปร์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย  แต่ต่อมาเกิดความขัดแย้งระหว่างตัวเขากับ นายอับดุล ราห์มัน นายกฯ มาเลเซียในขณะนั้น ทำให้เกิดความวุ่นวายทางเชื้อชาติ ระหว่างชาวจีนกับชาวมุสลิมในมาเลเซียในปี พ.ศ 2507 – 2508

จนกระทั่งในวันที่ 9 ส.ค ปี พ.ศ 2509 นายกฯ อับดุล ราห์มัน ก็ขอให้มีการแยกประเทศ เหตุการณ์นี้ถือได้ว่า สร้างความสับสนว้าวุ่นให้กับนายกฯ ลี กวน ยู เพราะเชื่อมาตลอดชีวิต ว่าสิงคโปร์กับมาเลเซียที่ควรจะเป็นหนึ่งเดียวกัน

เมื่อมีการแยกประเทศ ลี กวน ยู ในวัย 42 ปี จึงต้องการผลักดันให้สิงคโปร์เป็นประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ นักวิเคราะห์เชื่อว่า สิ่งที่ทำให้สิงคโปร์เจริญก้าวหน้า ก็คือ การเน้นการสร้างทรัพยากรที่มีค่าที่สุดคือ มนุษย์ ซึ่ง ลี กวน ยู ก็คือต้นแบบให้คนสิงคโปร์ทั้งประเทศ

เศรษฐกิจสิงคโปร์ภายใต้การนำของ ลี กวน ยู เติบโตอย่างรวดเร็ว ตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ติดต่อกันกว่าสิบปี  จนทำให้สิงคโปร์กลายเป็น สิงคโปร์กลายเป็นศูนย์กลางน้ำมัน การคมนาคมขนส่ง และการเงินของเอเชีย ซึ่งถือว่า สิงคโปร์เป็นหนึ่งในสี่เสือเอเชีย ซึ่งประกอบด้วย ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์

แต่อีกด้านที่เป็นผลลบก็คือ การเกิดลัทธิอำนาจนิยม คือรัฐบาลสิงคโปร์มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการลงโทษผู้ที่ไม่เห็นด้วยหรือวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล นำไปสู่การจับกุมคุมขังนักการเมืองฝ่ายค้าน นักรณรงค์ และผู้นำสหภาพแรงงานต่างๆจำนวนมาก ซึ่งสิ่งนี้มาจากความเข้มแข็งเด็ดขาดของนายลี กวน ยู โดยเขามีแนวคิดที่ว่า ใครก็ตามที่ปกครองสิงคโปร์ต้องมีความเข้มแข็งเด็ดขาด เพราะนี่ไม่ใช่เกมแต่เป็นชีวิตจริง

เดือนกุมภาพันธ์ 2558 ลี กวน ยู เข้าโรงพยาบาลเพี่อรับการรักษาโรคปอดบวมที่โรงพยาบาลสิงคโปร์ ในวันที่ 21 มีนาคม อาการของเขาทรุดลง ขณะติดเครื่องช่วยหายใจกล หลังจากช่วง “ป่วยวิกฤต”ลี กวน ยู ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 91 ปี ด้วยอาการปอดติดเชื้อ

นับว่า สิงคโปร์ได้สูญเสียบุคคลสำคัญระดับประเทศไปอีกท่านหนึ่งครับ