ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ พร้อมความหมาย
ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ ประกอบด้วย
- อักษรพระปรมาภิไธย วปร อยู่ตรงกลาง พื้นอักษรสีขาวขอบเดินทอง อันเป็นสีของวันจันทร์ซึ่งเป็น วันพระบรมราชสมภพ
- ภายในอักษรประดับเพชร ตามความหมายแห่งพระนามมหาวชิราลงกรณ์
- อักษร วปร อยู่บนพื้นสีขาบ (น้ําเงินเข้ม) อันเป็นสีของขัตติยกษัตริย์
- ภายในกรอบพุ่มข้าวบิณฑ์สีทอง สอดสีเขียว อันเป็นสีซึ่งเป็นเดชแห่งวันพระบรมราชสมภพ
- กรอบทรงพุ่มข้าวบิณฑ์อัญเชิญมาจากกรอบที่ ประดิษฐานพระมหาอุณาโลม อันเป็นพระราชลัญจกรประจําพระองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
แวดล้อมด้วยเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ อันเป็น เครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์และเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นสมเด็จพระบรม ราชาธิราช ได้แก่ พระมหาพิชัยมงกุฎพร้อมอุณาโลมประกอบเลขมหามงคลประจํารัชกาล อยู่เบื้องบน พระแสงขรรค์ชัยศรีกับพระแส้จามรี ทอดไขว้อยู่เบื้องขวา ธารพระกรกับพัดวาลวิชนี ทอดไขว้อยู่เบื้องซ้าย และฉลองพระบาทเชิงงอน อยู่เบื้องล่าง
- พระมหาพิชัยมงกุฏหมายถึงทรงรับพระราชภาระอันหนักยิ่งของ แผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
- พระแสงขรรค์ชัยศรีหมายถึงทรงรับพระราชภาระปกป้องแผ่นดิน ให้พ้นจากภยันตราย
- ธารพระกรหมายถึงทรงดํารงราชธรรมเพื่อค้ําจุนบ้านเมืองให้ผาสุกมั่นคง
- พระแส้จามรี กับพัดวาลวิชนีหมายถึงทรงขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากเดือดร้อนของอาณาประชาราษฎร์
- ฉลองพระบาท เชิงงอนหมายถึงทรงทํานุบํารุงปวงประชาทั่วรัฐสีมาอาณาจักร
เบื้องหลังพระมหาพิชัยมงกุฎประดิษฐาน พระมหาเศวตฉัตรอันมีระบายขลิบทอง จงกลยอดฉัตรประกอบรูปพรหมพักตร์อันวิเศษสุด ระบายชั้นล่างสุด ห้อยอุบะจําปาทอง แสดงถึงพระบารมีและพระบรมเดชานุภาพที่ปกแผ่ไปทั่วทิศานุทิศ
เบื้องล่างกรอบ อักษรพระปรมาภิไธยมีแถบแพรพื้นสีเขียวถนิมทอง ขอบขลิบทอง มีอักษรสีทองความว่า “ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒”
ปลายแถบแพรเบื้องขวามีรูปคชสีห์กายม่วงอ่อนประคอง ฉัตร ๓ ชั้น หมายถึงข้าราชการฝ่ายทหาร
เบื้องซ้ายมีรูปราชสีห์กายขาวประคองฉัตร ๗ ชั้น หมายถึง ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ผู้ปฏิบัติราชการสนองงานแผ่นดินอยู่ด้วยกัน
ข้างคันฉัตรด้านในทั้งสองข้างมีดอก ลอยกนกนาค แสดงถึงปีมะโรงนักษัตรอันเป็นปีพระบรมราชสมภพ
สีทองหมายถึงความเจริญ รุ่งเรืองยิ่งของประเทศชาติและประชาชน
Be the first to comment