ในวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2563 จะมีการประชุมสภาในวาระที่น่าสนใจและได้รับการจับตามองจากสังคมในเรื่อง “เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” โดยมีรัฐมนตรีทั้งหมด 6 ท่าน รวมถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทาง Zcooby ขอนำเสนอรายชื่อและประเด็นที่ใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมช่องทางการรับชมถ่ายทอดสด
รายชื่อรัฐมนตรีที่มีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
- พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
- นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
- พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
- นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยประเด็นที่ทางฝ่ายค้านยื่น ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ในแต่ละบุคคลเป็นดังนี้
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ไม่ยึดมั่น และศรัทธาต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ล้มล้างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็น กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ กระทําการเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการ ซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ใช้อํานาจที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรม ละเมิดหลักนิติธรรมและ สิทธิเสรีภาพของบุคคลอย่างกว้างขวาง เป็นผู้นําประเทศที่กร่างเถื่อน มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู ปิดปากผู้ที่มี ความเห็นต่าง ชอบก่นด่าเมื่อถูกซักถาม เมื่อได้อํานาจมาโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญก็สร้างกลไกในรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่เพื่อมุ่งสืบทอดอํานาจของตนเอง ปล่อยให้มีการทุจริตเต็มบ้านเต็มเมือง ใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง บริวารและพวกพ้อง เข้าข้างคนชั่วที่เป็นพวกโดยไม่คํานึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม บริหารราชการแผ่นดินโดยขาดความรู้ความสามารถ ผิดพลาดบกพร่อง อย่างร้ายแรง ขาดคุณธรรม จริยธรรม แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการประจําและองค์กร ในกระบวนการยุติธรรม เรียกได้ว่าเป็นยุคยุติธรรมหมดตรง บังคับใช้กฎหมายโดยเลือกปฏิบัติไม่เป็นไปตาม หลักความเสมอภาค ไม่เคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ไม่ปฏิบัติหน้าที่และใช้อํานาจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ เปิดเผย ไม่มีความรอบคอบและระมัดระวังในการดําเนินกิจการต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ และประชาชนส่วนรวม มีการกระทําอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ มีพฤติการณ์ร่ํารวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่รักษาวินัยการเงิน การคลัง ใช้งบประมาณ ของรัฐสร้างคะแนนนิยมให้กับตนเองและพรรคการเมืองโดยมิได้คํานึงถึงภาระด้านงบประมาณของประเทศ เป็นยุคที่เงินกําลังจะหมดคลัง ไม่ยึดตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ลุแก่อํานาจ ขาดภาวะผู้นํา ไม่เสริมสร้าง ให้ทุกภาคส่วนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรม ผาสุก และสามัคคีปรองดองกัน แต่กลับสร้างความขัดแย้ง ให้ขยายวงกว้าง ล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพในการดูแลด้านเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ กับประชาชนทุกภาคส่วนจนก่อให้เกิดสภาพ “รวยกระจุก จนกระจาย” ประชาชนสิ้นหวัง ให้ความสําคัญกับการซื้ออาวุธ ยุทโธปกรณ์มากกว่าปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ล้มเหลวในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลอกลวงประชาชน ไม่ทําตามนโยบายที่พรรคการเมืองที่สนับสนุนตนหาเสียงไว้ทั้งเรื่องค่าแรงขั้นต่ํา ราคาพืชผล ทางการเกษตรและลดภาษีเงินได้ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ การบริหารราชการแผ่นดินของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งผลกระทบและความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างกว้างขวาง เป็นยุคที่ทุจริตเฟื่องฟู น้ํากําลังจะหมดเขื่อน มวลอากาศเป็นพิษเต็มเมือง เศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง หากปล่อยให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไปจะทําให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงจนประเทศถึงแก่ความล่มจมได้
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสําหรับตนเองและพวกพ้อง ใช้งบประมาณของรัฐเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเอง มีพฤติการณ์ร่ํารวยผิดปกติ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อํานาจ ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบด้านกฎหมาย ได้ใช้ตําแหน่งหน้าที่ เข้าไปก้าวก่าย แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรในกระบวนการยุติธรรม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและ ผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายด้านการเงินแก่รัฐจํานวนมาก บังคับใช้และตีความกฎหมายโดยไม่ยึดหลักการ และบรรทัดฐานที่ถูกต้อง จนทําให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องของอภินิหาร ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือและเอื้อประโยชน์ ให้กับพวกพ้อง ชี้นําการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐและองค์กรอิสระ และไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ ฉ้อฉล ใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสําหรับตนเอง บริวารและพวกพ้อง กลั่นแกล้งข้าราชการประจํา ก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ประจําของข้าราชการและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นเพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและประพฤติมิชอบในหน่วยงาน ที่กํากับดูแลอย่างกว้างขวางจงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ละเว้นไม่ดําเนินการตามกฎหมาย ใช้อํานาจในตําแหน่งโดยมิชอบเกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม มีพฤติการณ์ใช้อํานาจในตําแหน่ง หน้าที่ก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ประจําของข้าราชการเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องโดยมิใช่ อํานาจหน้าที่ของตนตามที่กฎหมายบัญญัติ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ทําให้การบังคับใช้กฎหมาย ไม่เป็นไปตามครรลองที่กําหนดไว้ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทข้ามชาติ ส่อว่าจงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อํานาจ ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง นําพาชาติเข้าสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริหารราชการแผ่นดิน ผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามในการดํารงตําแหน่งรัฐมนตรี เข้าสู่ตําแหน่งโดยไม่ชอบ ด้วยรัฐธรรมนูญ ทําตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ปกป้องพวกพ้องโดยไม่คํานึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ
Be the first to comment