“โรคซึมเศร้า” อาจจะเป็นคำที่หลายคนได้ยินบ่อยในช่วงนี้ แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักถึงตัวตนของมันจริงๆ วันนี้ Zcooby ขอแนะนำข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ โรคซึมเศร้า ไม่ว่าจะเป็น สาเหตุ อาการ แนวทางการรักษาหรือป้องกัน พร้อมทั้งแบบทดสอบว่าเรามีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่?
โรคซึมเศร้า คืออะไร?
หากพูดถึงคำว่า “ซึมเศร้า” คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง อารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากความผิดหวัง หรือการสูญเสีย มากกว่าการจะคิดว่าเป็นโรค
ซึ่งจริงๆ แล้ว โรคซึมเศร้า เป็นความผิดปกติของสมอง ที่มีผลกระทบต่อความนึกคิด อารมณ์ ความรู้สึก พฤติกรรมและสุขภาพกาย
แต่คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าโรคซึมเศร้า เป็นผลมาจากความผิดปกติของจิตใจ สามารถแก้ไขให้หายได้ด้วยตนเอง
ในความจริงแล้ว โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่เกิดจากความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท 3 ชนิด คือ ซีโรโตนิน นอร์เอปิเนฟริน และโดปามีน
โรคซึมเศร้านั้นมีหลากหลายประเภท ทำให้ผู้ป่วยซึมเศร้าแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป อารมณ์ที่หลายหลายของโรคซึมเศร้า ได้แก่
- โรคซึมเศร้าแบบเมเจอร์ ดีเพรสชั่น (Major Depression) โดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าชนิดนี้ จะมีความผิดปกติที่มีอารมณ์ซึมเศร้านานกว่า 2 สัปดาห์ ผู้ที่ป่วยจะมีอาการเศร้าสลดอย่างมาก จนไม่มีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยทำให้กลับมามีความสุขสดชื่นเหมือนเดิม ดังนั้นควรเริ่มรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยไม่ให้โรคซึมเศร้าแบบนี้มีความรุนแรงขึ้น อีกทั้งยังลดความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายอีกด้วย
- โรคซึมเศร้าแบบดิสทีเมีย (Dysthymia Depression) ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าชนิดนี้ จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่าชนิดแรก แต่เป็นอย่างต่อเนื่องนานกว่า นั่นคือ จะมีอาการอย่างน้อย 2 ปี แต่มักจะนานกว่า 5 ปี อาการไม่รุนแรงถึงขนาดทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากผู้ที่ป่วยจะมีอารมณ์ผิดปกติสลับไปด้วย
- โรคซึมเศร้าแบบไบโพลาร์ ดิสออร์เดอร์ (Bipolar disorder) ผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า ชนิดนี้บางรายจะมีอารมณ์เซ็ง ซึมเศร้าสลับกับอาการลิงโลด โดยเป็นอารมณ์ที่ต่างกัน หรือ ต่างขั้วกัน โดยซึมเศร้าชนิดนี้จะมีผลต่อการตัดสินใจและมักก่อให้เกิดปัญหา เช่น การใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย หรือตัดสินใจผิดๆ และอาจมีความคิดฆ่าตัวตายในช่วงที่มีอาการซึมเศร้าได้
อาการของผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
หากตนเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการ หรือมากกว่า
- มีอารมณ์ซึมเศร้า (ในเด็กและวัยรุ่นอาจเป็นอารมณ์หงุดหงิดก็ได้)
- ความสนใจหรือความเพลินใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงอย่างมาก
- น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก (น้ำหนักเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน) หรือมีการเบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมาก
- นอนไม่หลับ หรือหลับมากไป
- กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข หรือเชื่องช้าลง
- อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง
- รู้สึกตนเองไร้ค่า
- สมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจไปหมด
- คิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย
- * ต้องมีอาการในข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ
- * ต้องมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องมีอาการเหล่านี้อยู่เกือบตลอดเวลา แทบทุกวัน ไม่ใช่เป็นๆ หายๆ เป็นเพียงแค่วันสองวันหายไปแล้วกลับมาเป็นใหม่
การรักษาโรคซึมเศร้า
หากพบหรือสงสัยว่าตนเองและคนใกล้ตัวคุณป่วยด้วยโรคซึมเศร้า อย่าได้นิ่งนอนใจ ควรพามาปรึกษาแพทย์ เพราะหากได้รับการบำบัดรักษาอย่างถูกต้องด้วยวิธีที่เหมาะสม
แบบทดสอบว่าเรามีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่?
ข้อ | ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านมีอาการเหล่านี้บ่อยแค่ไหน? |
ไม่มีเลย 0 คะแนน |
เป็นบางวัน (1-7 วัน) 1 คะแนน |
เป็นบ่อยมากกว่า 7 วัน 2 คะแนน |
เป็นทุกวัน 3 คะแนน |
1 | เบื่อ ไม่สนใจอยากทำอะไร | ||||
2 | ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้ | ||||
3 | หลับยาก หรือหลับๆ ตื่นๆ หรือหลับมากไป | ||||
4 | เหนื่อยง่าย หรือ ไม่ค่อยมีแรง | ||||
5 | เบื่ออาหาร หรือ กินอาหารมากเกินไป | ||||
6 | รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าตัวเองล้มเหลว หรือทำให้ตนเองหรือครอบครัวผิดหวัง | ||||
7 | สมาธิไม่ดี เวลาทำอะไร เช่น ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ หรือทำงานที่ต้องใช้ความตั้งใจ | ||||
8 | พูดช้า ทำอะไรช้าลงจนคนอื่นสังเกตได้ หรือ กระสับกระส่าย ไม่สามารถอยู่นิ่งได้อย่างที่เคยเป็น | ||||
9 | คิดทำร้ายตัวเอง หรือคิดว่า ถ้าตัวเองตายไปก็คงจะดี |
คะแนนรวมและการแปลผล
คะแนนรวม | การแปลผล |
5-8 | มีอาการซึมเศร้าเล็กน้อย |
9-14 | เป็นโรคซึมเศร้า ระดับเล็กน้อย |
15-19 | เป็นโรคซึมเศร้า ระดับปานกลาง |
20 คะแนนขึ้นไป | เป็นโรคซึมเศร้า ระดับรุนแรง |
Be the first to comment